พระพิฆเนศ

คู่มือปราณะได้บันทึกไว้พักหลังพุทธศักราชที่ 1 เอ๋ยถึงการกำเนิดพระพิฆเนศวรในฐานะเทวดา รวมทั้งบุตรชายของพระแม่อุมาเทวีกับพระศิวะเทวดา โดยแต่ละตำนานได้กล่าวไว้ต่างกัน ดังต่อไปนี้

jumbo jili
ตำนานอันดับหนึ่ง ปราบอสุรีรวมทั้งรากษส
เมื่ออสุรีรวมทั้งรากษส ทำเส้นไหว้พระศิวะเพื่อขอพรต่อท่านจนได้รับพร สมดั่งใจคิด ต่อเมื่อเหิมใจกลับรุกรานเหล่าเทวดาให้ได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว จนถึงความถึงพระอินทร์ก็เลยต้องพาเหล่าเทวดาทั่งหลายไปขอเข้าเฝ้าพระศิวะเจ้า เพื่อขอให้ทรงทีแนวทางหรือคนที่จะปราบเหล่าอสุรีรวมทั้งรากษสหัวใจระรานพวกนั้น เมื่อได้ฟังคำร้องเรียนจากเหล่าเทวดาแล้ว พระศิวะก็เลยทรงแบ่งกายเป็นชายรูปงามซึ่งจะไปเกิดในท้องของพระอุมาเทวี เมื่อถึงเวลาเกิดแล้ว ท่านก็เลยทรงให้พระนามว่าพระวิฆเนศวรเพื่อปฏิบัติภารกิจปราบอสุรีและก็รากษสทั้งหลายแหล่ เมื่อเสร็จสมบูรณ์การปราบยักษ์แล้ว ท่านก็เลยทรงมอบหมายให้พระวิฆเนศวรทรงเป็นผู้ขวาง และก็คุ้มครองปกป้องเหล่าผู้มีจิตใจระรานต่างๆที่จะมาขอพรจากพระศิวะเพื่อนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง รวมทึ้งเป็นผู้คัดสรรเหล่าเทวดารวมทั้งมนุษย์ผู้กระทำบาปดีแล้วก็ช่วยเหลือให้ศึกษาและทำการค้นพบกับการบรรลุผล จากการขอพรต่อพระศิวะถัดไป

สล็อต
ตำนานลำดับที่สอง พระขว้างรวตี (พระแม่อุมาเทวี) ปั้นเหงื่อไหลไคลย้อยให้เป็นพระลูก
เมื่อคราวที่พระขว้างรวตีสรงน้ำอยู่ในสวน ท่านทรงนำเหงื่อไคลของท่านมาปั้นเป็นหุ่นเทวลูกรูปงาม และก็ทรงใช้เวทย์มนต์เพื่อหุ่นนั้นมีชีวิตขึ้นมา หลังจากนั้นก็เลยทรงตรัสให้เทวลูกออกไปเฝ้ายังข้างหน้าประตูปากทางเข้าสวน โดยได้รับสั่งว่าห้ามไม่ให้คนไหนเข้ามาโดยเด็ดขาด สถานะการณ์เป็นแบบนี้ตลอดมาครั้งใดก็ตามพระแม่อุมาทรงสรงน้ำในสวนที่นี้ จนตราบเท่าเมื่อถึงวันระบุเสด็จกลับของพระศิวะ แล้วก็เมื่อทั้งคู่ท่านเจอกันในครั้งแรกต่างก็จะเข้าไปในสวน อีกข้างก็คุ้มครองปกป้องไม่ให้คนไหนกันปิ้งกายเข้าในสวนได้ด้วยเทวลูกทรงได้รับคำบัญชาของพระอุมา ห้ามไม่ให้คนใดล่วงละเมิดเข้าไปยังสถานที่สรงน้ำที่นี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นพระศิวะก็เลยทรงสั่งให้บริวารเข้าต่อสู้และก็ได้ฆ่าเทวลูก (แต่ว่าในบางตำราก็ว่าพระศิวะทรงใช้หลาวสามง่ามตัดเศียรเทวลูกนั้น บ้างก็ว่าพระวิษณุทรงใช้จักรตัดเศียร)
เมื่อพระขว้างรวตีทรงเจอเหตุที่เกิดขึ้น ท่านทรงโกรธรวมทั้งโกรธพระสวามียิ่ง จนกระทั่งกับทำศึกสงครามใหญ่ระหว่างทั้งคู่ท่าน ร้อนถึงพระฤาษีท้องนารอด (ทุ่งนารท) จำต้องรับแทนหน้าพูดจาศึกในครั้งนี้ โดยพระปราวตีได้กล่าวให้พระศิวะผู้สวามีต้องหาวิถีทางให้เทวลูกฟื้นคืนชีพก็เลยจะยอมเลิกรบให้
พระศิวะก็เลยทรงมีคำบัญชาให้เทพเจ้าผู้เป็นบริวารเดินทางไปทิศเหนือ และก็ให้ตัดศรีษะของสิ่งมีชีวิตแรกที่เจอเพื่อนำมาแม้กระทั่งกับเทวลูกผู้เป็นบุตรชาย ไม่นานนักทวยเทพก็เดินทางกลับมาพร้อมทั้งนำเศียรช้าง (มีงาเดียว) เพื่อมาถึงแม้ว่าจะพระลูกชาย ซึ่งถัดมาก็เลยทรงตั้งชื่อใหม่เป็นคชานนะ (มีหน้าเป็นช้าง) รวมทั้งเอกทันต (ผู้มีงาเดียว) เมื่อได้ช่วยชีวิตรู้สึกตัวแล้วพระปราวตีก็เลยทรงเล่าราวต่างๆให้ทั้งคู่ท่านได้ฟังว่าทั้งคู่ท่านทรงเป็นพระพ่อรวมทั้งพระลูกชาย ซึ่งข้างบุตรชายได้ฟังด้วยเหตุผลดังกล่าวถึงกลับหมอบกราบขอประทานโทษโทษเพราะว่าวิชาความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตัวเอง พระศิวะทรงเพียงพอใจยิ่งนัก ถึงกับประทานพรให้พระบุตรชายให้เป็นผู้มีอิทธิพลเหนือเหล่าภูตผีปีศาจทั้งสิ้น แล้วก็ทรงตั้งให้เป็น คณปว่ากล่าว ผู้เป็นใหญ่สุดท้าย

สล็อตออนไลน์
ตำนานลำดับที่สาม ขวางคนอัลธพาลที่อยากไถ่บาปในเทวาลัยโสมทุ่งนาถ รวมทั้งเทวาลัยโสมีศวร
ตำนานกล่าวถึงว่าพระขว้างรวตีได้ทรงนำน้ำที่ใช้ในลัษณะของการสรงน้ำมาผสมเหงื่อไคล ปั้นเป็นเทวลูกรูปเป็นมนุษย์แต่ว่ามีเศียรเป็นช้าง แล้วก็เลยนำน้ำจากพระแม่น้ำคงคามาพรมเพื่อมีชีวิตขึ้นมา โดยมีพระต้องการให้ไปกีดขวางคนอัลธพาลที่จะไปบูชาศิวลึงค์ เนื่องจากว่าหวังที่จะไถ่บาปตัวเองในเทวาลัยโสมท้องนาถ และก็เทวาลัยโสมีศวร เพื่อไม่ให้ตนตกนรก
จากเรื่องเล่านี้ ทำให้เกิดอาการชาวฮินดูทั้งหลายแหล่นิยมนำรูปปั้นพระคเณศมาจุ่มในน้ำในวัดคเนศจาเหม็นตุรถี หรือครั้งคราวก็จะนำเทวรูปเล็กๆนำไปทิ้งตามแม่น้ำคงคาด้วยความเชื่อถือที่ว่า น้ำจากแม่น้ำคงคาจะมีผลให้พระวิฆเนศวรมีชีวิตขึ้นมานั่นเอง
ตำนานลำดับที่สี่ พระกฤษณะอวตาร
เล่าไว้ว่าเมื่อครั้งพระขว้างรวตียังไม่มีลูกชาย พระศิวะเทวดาผู้สวามีก็เลยให้คำปรึกษาว่าให้ทำพิธีการปันยากพรต (การบูชาพระวิษณุเทวดาในวันขึ้น 13 เย็น เดือนมาฆะ) โดยใช้เวลาสำหรับการประกอบพิธีตลอด 1 ปี ซึ่งถ้าหากทำโดยตลอดจนกระทั่งครบก็จะบรรลุผลสำเร็จสำหรับการขอบุตร ซึ่งพระกฤษณะจะอวตารมาตาย ต่อเมื่อทั้งหมดทุกอย่างเป็นไปตามคำร้องของพระศิวะเทวดาแล้ว เหล่าเทพทวยเทพเทวดาทั้งหลายแหล่ก็ได้มาร่วมอวยพรกับการเกิดของพระลูกชายท่านนี้ รวมทั้งเทวดาศนิ (พระเสาร์) ก็เข้ามาร่วมพิธีการอำนวยพรด้วย ซึ่งพระศนิท่านนี้มีเรื่องมีราวกล่าวไว้ว่า เมื่อท่านทรงพิศดูสิ่งใดชอบกำเนิดไฟเผาผลาญสิ่งนั้นๆจนกระทั่งหมดเกลี้ยงไป
ในคราวร่วมพิธีการให้พร พระศนิก็ทรงได้ยกย่องพระบุตรชาย จนถึงเผลอตนพิศดูพระบุตรชายจนกระทั่งเศียรของพระกุมารหลุดกระเด็นไปยังวัวโลก (ที่ประทับพระกฤษณะ) พระศิวะก็เลยมีสั่งการให้พระวิษณุออกตามหาเศียรพระบุตรชาย แต่ว่าก็ไม่ทรงเจอถัดมาเมื่อผ่านแม่น้ำบุษปดี พระวิษณุทรงแลเห็นช้างนอนหันหัวไปทางทิศเหนือ ก็เลยตัดเศียรช้างนั้นนำกลับมาแม้กระทั่งพระลูกชาย

jumboslot
ตำนานที่ห้า พระศิวะ-พระขว้างรวตีแปลงเป็นช้าง
ครั้งหนึ่งพระศิวะแล้วก็พระขว้างรวตีได้เสด็จไปยังเทือกเขาหิมาลัย ได้แลเห็นช้างกำลังร่วมประเวณีกัน ก็เลยเกิดขึ้นความต้องการ แล้วต่อจากนั้นก็เลยทรงเปลี่ยนร่างเป็นช้างรวมทั้งสู่สมกันจนกระทั่งกำเนิดพระบุตรชาย

slot
นามพระวิฆเนศ
ตำนานที่หก พระวิษณุเทวดา ส่งแสงถ้อยคำกสิทธิ์ในพิธีการโสกันต์
จากที่พระศิวะและก็พระขว้างรวตีทรงจัดพิธีการโสกันต์ให้กับพระลูกชายในพิธีการเวลาเป็น วันอังคารก็เลยได้แจ้งชวนเทวดาทั้งหมดทั้งสิ้นมาเป็นประจักษ์พยาน แต่ว่าคงจะยังขาดเพียงแต่องค์วิษณุเทวดาที่ทรงอยู่ระหว่างบรรทม กระทั่งเมื่อใกล้เวลาอันเป็นมงคล พระศิวะเทวดาก็เลยทรงให้พระอินทร์นำสังข์ไปเป่าเพื่อปลุกให้พระวิษณุเทวดาตื่นจากบรรทม เมื่อพระวิษณุเทวดาทรงตืนจากบรรทมด้วยเสียงดังของสังข์ ก็เลยทำให้พระวิษณุเทวดาพลั่งปากออกไปว่า “ไอ้ลูกไม่มีหัวจะนอนให้สบายก็มิได้” เพียงแค่ถ้อยคำนี้ถึงกลับทำให้เศียรของพระบุตรชายหายไปในทันทีทันใด เหล่าเทพทั้งหลายแหล่เมื่อมองเห็นดังต่อไปนี้แล้วจึงขอคำแนะนำกันว่า วันอังคารนับว่าเป็นเวลาไม่ดีขอห้ามประกอบพิธีการมงคลใดๆก็ตามทั้งหมด กลับถึงเรื่อง พระเศียรของบุตรชายพระศิวะเทวดาก็เลยมีสั่งการให้พระเวสสุกรรมไปตัดศรีษะมนุษย์ที่เพิ่งจะจบชีวิตในทิศตะวันตก แล้วนำกลับมาอย่างรวดเร็ว แม้กระนั้นในวันนั้นหาได้มีมนุษย์คนใดกันสิ้นอายุขัยลง พระวิษณุบาปแลเห็นเพียงแต่ช้างตัวผู้งาเดียวเพียงแค่นั้นที่จบชีวิตลง ก็เลยตัดศรีษะช้างตัวผู้ตัวนั้นกลับมามอบพระศิวะเทวดา
ในเวลาที่พุทธกำลังเติบโตในประเทศอินเดีย มีเรื่องมีราวเล่ารายงานในในช่วงเวลานี้ว่า เมื่อทวยเทพนำหัวช้างมาต่อแต่ว่าก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้พระบุตรชายฟื้นคืนชีวิตได้ พระศิวะเทวดาก็เลยจำเป็นต้องให้พระวิษณุเทวดาไปทูลชวนเสด็จพระศรีมานนท์พระอรหันต์ ให้โปรดเสด็จมาสวดมนตร์พระเวทมนตร์คาถาเคยชินบัญชรจนถึงเสร็จทำให้พระบุตรชายฟื้นคืนชีพ
หรือบ้างก็พูดว่าในพิธีการโสกัณต์ พระราหูได้เตือนพระศิวะแล้วว่าจะเกิดเหตุคาดไม่ถึงขึ้น จำเป็นที่จะต้องทูลชวนเสด็จพระพุทธเจ้าให้ร่วมพิธีการนี้ด้วย แต่ว่าพระศิวะเทวดาก็หารับฟังไม่ บ้างก็ว่าพระวันอังคารมิได้รับเชิญให้ร่วมพิธีการก็เลยโกรธเคือง แล้วก็ได้ลอบตัดเศียรพระบุตรชายไปเขวี้ยงทิ้งสมุทร